ส่องอาชีพที่ AI ทำแทนไม่ได้ พร้อมแนวทางรับมือให้เป็นคนที่ใช่

เลือกอ่านตามหัวข้อ

By Apatsanan Chaivinit
April 25, 2024

ยินดีต้อนรับเข้าสู่ยุค AI ยุคที่เราอาจจะมี AI เป็นเพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้างานก็เป็นได้ ด้วยฝีมือที่เก่งกาจและมันสมองอันชาญฉลาดของมนุษย์ ที่พัฒนาเทคโนโลยีให้มีความก้าวหน้าขึ้นอยู่เสมอ เพื่อสร้างสิ่งที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับตัวเอง จึงทำให้เกิดยุค AI ขึ้นมาพร้อมกับคำถามเหล่านี้ แล้ว AI แทนที่มนุษย์ได้จริงหรือไม่? อาชีพอะไรบ้างที่ AI ทำได้แล้ว? และเหลืออาชีพอะไรบ้างที่ AI ทำแทนไม่ได้? บทความนี้มีคำตอบ

อ่านเฉพาะที่สนใจได้นะ

อาชีพที่ AI สามารถทำได้และทำไม่ได้

ในช่วงนี้จะเห็นได้ว่าหลายธุรกิจเริ่มผลักดันให้พนักงานเอา AI มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานกันแล้ว และในอนาคต 10 ปีข้างหน้าจะมีอาชีพอะไรบ้างที่ถูก AI แย่งงานได้ เรามาดูตัวอย่างกัน 

ตัวอย่าง อาชีพที่ AI ทำได้ ในปัจจุบันและอนาคต
Credit: ภาพจาก AI ART CHAT GPT-4

อาชีพที่ AI ทำได้

1. นักวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analysts): AI สามารถช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลทางธุรกิจจำนวนมากที่มีความซับซ้อนได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพเพื่อการตัดสินใจที่ดีขึ้น

2. นักพัฒนาซอฟต์แวร์และวิศวกรซอฟต์แวร์ (Software Developer and Software Engineer): ตอนนี้ AI สามารถเขียนโค้ดขั้นพื้นฐานได้แล้ว จากคำสั่งภาษามนุษย์ที่ป้อนเข้าไป ถึงแม้ในปัจจุบัน AI จะยังเขียนโค้ดได้ไม่ซับซ้อนเท่านักพัฒนาซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมเมอร์ที่เป็นมนุษย์ แต่ด้วยฐานข้อมูลที่มีอยู่ อาจจะมีการพัฒนาแบบก้าวกระโดดก็เป็นได้

3. นักการตลาดดิจิทัลและนักวิเคราะห์การตลาด (Digital Marketer and Market Research Analyst): AI สามารถช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลการตลาดและพฤติกรรมของผู้บริโภค เพื่อช่วยในการวางแผนและการตัดสินใจทางการตลาด

4. นักเขียนเนื้อหาและบล็อกเกอร์ (Content Creator and Blogger): AI สามารถช่วยในการสร้างเนื้อหาที่มีความเข้ากันได้ทั้งกับ SEO และผู้อ่าน โดยใช้เทคนิคการเรียนรู้ของเครื่องมือ AI เพื่อสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ เป็นประโยชน์ และน่าสนใจสำหรับผู้อ่าน

5. นักวิจัยและนักพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ (Researcher and Technology Developer): AI สามารถช่วยในการทดลองโดยการให้มนุษย์ตรวจสอบความถูกต้องแม่นยำ (Accurate) ของข้อมูลที่จำเป็นเข้ามาเพื่อป้องกันการเกิดข้อมูลที่ซ้ำซ้อน ซึ่งอาจทำให้ AI เรียนรู้ข้อผิดพลาดและได้ผลลัพธ์ที่ไม่ถูกต้องได้ สิ่งนี้เรียกว่า การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ โดยการใช้การเรียนรู้ของเครื่องมือ AI เพื่อสร้างโมเดลและแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน

โดยสรุปแล้วอาชีพที่ AI จะมาแทนที่ได้นั้น จะเน้นไปทางลักษณะงานที่ไม่ต้องการความคิดสร้างสรรค์ เป็นการทำงานเรียบง่ายซ้ำ ๆ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การคำนวณ และเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่มนุษย์ยอมรับว่า AI แทนที่มนุษย์ได้ในอนาคต

ทักษะความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ที่ AI ทำไม่ได้
Credit: ภาพจาก AI ART CHAT GPT-4

อาชีพที่ AI ทำไม่ได้  

1. นักวิจัยทางการแพทย์และแพทย์ทั่วไป (Medical Researcher and General Practitioner): การวิเคราะห์ภาพทางการแพทย์ และการตรวจสอบผลลัพธ์ของการรักษายังต้องการความเข้าใจ และความประสงค์ทางการแพทย์ที่มนุษย์มีเท่านั้น

2. นักเขียนและนักบรรณาธิการ (Writer and Editor): การเขียนงานวรรณกรรมยังคงต้องการความสละสลวยทางภาษา ความคิดสร้างสรรค์ และความสามารถในการถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดของมนุษย์

3. นักจิตวิทยาและนักประสาทวิทยา (Psychologist and Neuroscientist): การทำความเข้าใจพฤติกรรมมนุษย์และสมองยังเป็นงานที่ต้องอาศัยการคิดวิเคราะห์ และความเข้าใจที่ลึกซึ้งของมนุษย์

4. อาจารย์และผู้ช่วยสอน (Teacher and Teaching Assistant): ในอนาคตนักเรียน นักศึกษาจะสามารถเรียนรู้จาก AI ได้ แต่สิ่งที่ AI ทำไม่ได้คือ การสังเกตพฤติกรรมผู้เรียน และให้คำแนะนำชี้แนะแนวทางที่เหมาะสม หรือจะเรียกได้ว่า อาจารย์และครูในอนาคตอาจจะต้องปรับบทบาทจาก ผู้ถ่ายทอดเป็นผู้ให้คำแนะนำแทน

5. นักบริหารและผู้บริหารองค์กร (Executive and Corporate Executive): การตัดสินใจที่ซับซ้อนและการบริหารจัดการแฝงไว้ซึ่งความเข้าใจของมนุษย์ และความสามารถในการวิเคราะห์ทางสังคมที่ยังไม่ถูกสร้างขึ้นโดย AI ในขณะนี้

แม้จะอยู่ในยุค AI แต่อาชีพที่ AI ทำแทนไม่ได้ก็ยังคงมีอยู่มากมาย โดยส่วนใหญ่จะเน้นไปทางลักษณะงานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการ ความคิดสร้างสรรค์ ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ซึ่งเป็นงานที่ต้องมีทักษะการควบคุมทางอารมณ์ ทักษะการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ ทักษะการคิดวิเคราะห์และการตัดสินใจ ทักษะการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ และทักษะการรับมือกับสถานการณ์ที่ซับซ้อน

AI แทนที่มนุษย์ ได้จริงหรือไม่ ?

เหตุผลใดที่มนุษย์อย่างเราจึงกลัว AI เข้ามาแทนที่มนุษย์ คำตอบง่าย ๆ เพราะว่ามนุษย์ยังคงต้องทำงานแลกเงิน หากไม่มีงานก็ไม่มีเงินใช้ในการดำเนินชีวิต แต่ถ้ามองในอีกมุมจะเห็นได้ว่าการสร้างเทคโนโลยีคือโอกาสสร้างงานใหม่ ๆ มากกว่า ทีนี้เรามาดูกันว่า ความสามารถของ AI กับความสามารถของมนุษย์ มีความโดดเด่นในบริบทที่แตกต่างกันอย่างไรบ้าง

การทำงานร่วมกันระหว่าง AI และมนุษย์
Credit: ภาพจาก AI ART CHAT GPT-4

 ความสามารถของ AI

1. ความเร็วและประสิทธิภาพ: AI สามารถประมวลผลข้อมูลอย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพสูง ทำให้สามารถดำเนินงานกับปริมาณข้อมูลขนาดใหญ่ได้ภายในเวลาอันสั้น

2. ความสามารถในการทำซ้ำและการแก้ไข: AI สามารถทำงานโดยไม่มีความเหนื่อยล้า และไม่เกิดข้อผิดพลาดเมื่อมีการทำงานซ้ำ ๆ อีกทั้งยังปรับปรุงตนเองได้ตลอดเวลาโดยไม่มีปัจจัยอื่นอย่างอารมณ์และความเหนื่อยล้ามาลดประสิทธิภาพการทำงาน

3. ความสามารถในการทำงานในสภาวะที่อันตราย: AI สามารถทำงานในสภาวะแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมสำหรับมนุษย์ เช่น สถานที่มีความเสี่ยงสูงต่อชีวิตและสุขภาพ 

 ความสามารถของมนุษย์

1. ความรู้สึกและทักษะทางอารมณ์: มนุษย์มีความสามารถในการเข้าใจและจัดการกับอารมณ์ของตนเองและผู้อื่นได้ ซึ่งเป็นจุดอ่อนสำคัญที่ AI ยังทำไม่ได้ในตอนนี้ เพราะ AI ไม่มีความรู้สึก รวมไปถึงการทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องของอารมณ์ ซึ่งทักษะเหล่านี้จะนำไปสู่การถ่ายทอดผ่านงานศิลปะที่ AI ยังทำไม่ได้

2. ความสามารถในการเชื่อมโยงและสร้างความหมาย: มนุษย์มีความสามารถในการเชื่อมโยงความรู้ ความรู้สึก ความคิด และจินตนาการ ซึ่งมีความซับซ้อน หลากหลายมากกว่าการประมวลผลข้อมูลที่เป็นฐานการทำงานของ AI

3. ความสามารถในการสร้างสรรค์และคิดนวัตกรรม: มนุษย์มีความสามารถในการสร้างสรรค์และคิดนวัตกรรมด้วยตนเอง ซึ่งรวมถึงการคิดออกแบบและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ โดยถือเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่ยากต่อการนำมาจำลองในระบบ AI ได้โดยตรง

ทั้งมนุษย์และ AI ต่างก็มีจุดแข็งและจุดอ่อนที่แตกต่างกัน AI สามารถทำงานเป็นระบบและประมวลผลต่าง ๆ ได้ดีกว่ามนุษย์ ในขณะเดียวกัน AI ก็ยังต้องการความคิดที่ซับซ้อนและความรู้สึกจากมนุษย์ในการทำงาน ดังนั้นเพื่อให้มนุษย์อยู่ร่วมกับ AI ได้ดียิ่งขึ้น เรายิ่งต้องเร่งพัฒนาทักษะที่มนุษย์ทำได้ควบคู่ไปกับทักษะการทำงานด้านอื่นๆ เพื่อเราสามารถคุยและสั่งการ AI ให้ทำงานได้ 

หรืออีกนัยหนึ่ง คือยิ่งมีระบบอัตโนมัติ (Automation) ในการทำงานมากขึ้นเท่าไหร่ เรายิ่งต้องฝึกฝนทักษะความเป็นมนุษย์ (Human Skills) หรือ Soft Skills มากขึ้นเท่านั้น

แนวทางการพัฒนาตนเองในยุค AI 

เทคโนโลยีพัฒนาไปอย่างรวดเร็วเพราะ AI สามารถเรียนรู้ได้ตลอดโดยไม่ต้องหยุดพัก ดังนั้นหากเราอยากเป็นมนุษย์ที่ทำงานร่วมกับ AI ได้ เราจำเป็นต้องเร่งพัฒนาหลายทักษะเพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง คำถามคือแล้วเราจะต้องเรียนรู้อย่างไรให้เป็นคนที่ใช่ ที่แม้แต่ AI ก็แทนที่คุณไม่ได้ เรามี 4 แนวทางการพัฒนาตนเองในยุค AI มาแนะนำ ดังนี้

แนวทางพัฒนาตนเองในยุค AI ด้วยทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิต

1. เรียนรู้เกี่ยวกับ AI และเทคโนโลยี: ศึกษาเกี่ยวกับ AI และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เพื่อเข้าใจพื้นฐานการทำงาน โดยการประยุกต์และปรับใช้ทั้งในในชีวิตประจำวันและการทำงาน

2. ฝึกฝน Human Skills ให้มากขึ้น: เป็นการฝึกฝนทักษะการทำความเข้าใจคน ทั้งกระบวนการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา ความคิดสร้างสรรค์ การสื่อสาร และการเรียนรู้ ด้วยการพูดคุยพร้อมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้คนที่หลากหลายอย่างมีเหตุผล 

3. ยกระดับการเรียนรู้และลงมือปฎิบัติจริง: เข้าร่วมหลักสูตร คอร์สยกระดับ หรือเรียนรู้ผ่านแหล่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในรูปแบบใดก็ได้ เพื่อฝึกฝนความสามารถในการใช้ AI ผ่านการสร้างชิ้นงานและทำการขอรับรองทักษะ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือกับความสำเร็จของตนเอง 

4. สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต: เข้าร่วม Community ในช่องทางต่าง ๆ ที่มีความสนใจเดียวกัน เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และสะสมความรู้ เป็นการส่งเสริมให้มีการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง พร้อมรับมือกับงานแห่งอนาคตที่ยังมาไม่ถึง

โดยสรุปแล้ว AI จะแทนที่มนุษย์ไม่ได้ทั้งหมด เพราะยังจำเป็นต้องมีมนุษย์ในการให้คำสั่ง (Prompt) คัดกรองข้อมูล วางขอบเขตการใช้งานทั้งด้านจริยธรรมและข้อกฎหมายอยู่ดี แต่การที่เราใช้ AI ไม่เป็นต่างหาก ที่อาจทำให้เราถูกแทนที่ได้เกือบ 100% ในอนาคต

หากเราอยากเป็นมนุษย์ที่ทำงานร่วมกับ AI ได้ เราจำเป็นจะต้องพัฒนาทักษะมนุษย์ (Human Skills) หรือ Soft Skills ควบคู่ไปกับ Hard Skills ในการทำงาน จะเห็นได้ว่ามนุษย์เราจำเป็นต้องเรียนรู้มากขึ้นในเวลาที่มีอยู่จำกัด ในขณะที่ AI เรียนรู้ได้ไม่มีวันหยุด ดังนั้นทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) จึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะทำให้คุณเรียนรู้ได้ทันการเปลี่ยนแปลงในยุค AI 

โดยอาศัย Micro-Credentials เป็นเครื่องมือสำคัญช่วยยืนยันความสามารถ ว่าเราพร้อมสำหรับการลงมือทำงานจริง โดยไม่มีปัจจัยด้านเวลาเป็นข้อจำกัดในการเรียนรู้ 

Content Update: 23 April 2024

อ้างอิง :

• Weise, M. R. (2024). Long Life Learning: Preparing for Jobs that Don’t Even Exist Yet (รพีพัฒน์ อิงคสิทธิ์, Trans.). Publisher.

• Chat GPT-3.5

• Chat GPT-4
Artificial Intelligence VS Human Intelligence (Differences & Similarities)

ปัญญาประดิษฐ์ (AI) คืออะไร หลักการทำงาน และการใช้ในอุตสาหกรรม

AI และอนาคตแห่งการทำงาน: ประโยชน์ 4 ข้อที่คุณควรทราบ
ตำแหน่งงานของคุณจะถูก AI แย่งงานในปี 2024 หรือไม่?

เอาตัวรอดยุค AI ใช้เป็น ไม่ตกงาน !

มนุษย์ควรต้องกลัว AI ไหม ? เราจะอยู่รอดในยุค AI ได้อย่างไร ?

Share

Apatsanan Chaivinit

Writer Professional bio

บทความที่คุณอาจสนใจ

Work tipsLifelong Learning คือ?​ ทำไมคนเราต้องเรียนรู้ตลอดชีวิต?

Lifelong Learning คือ ทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิต ที่จะช่วยให้ประสบความสำเร็จในโลกที่ผันผวน แล้วจะมีเทคนิคการเรียนรู้อะไรบ้าง? ค้นพบคำตอบในบทความนี้

Work tipsHuman Skill คืออะไร? กุญแจสำคัญให้มนุษย์ทำงานอยู่รอดในยุค AI

Human Skill คือ จุดแข็งของมนุษย์ที่ AI ไม่สามารถ ทำได้ แล้ว Human Skill human skill มีอะไรบ้าง? และจะมีเทคนิคการพัฒนาอย่างไร? ติดตามได้ในบทความนี้

Work tipsเปลี่ยนคนทำงานธรรมดาๆ ให้กลายเป็นมืออาชีพแค่ 5 นาที

หากคุณเป็นคนทำงานธรรมดาที่มีความฝันอยากเป็นมืออาชีพในสายงานที่ชื่นชอบเพื่อความก้าวหน้า มั่นคงและประสบความสำเร็จ เราคือผู้ช่วยของคุณ แค่อ่านบทความนี้