5 เคล็ดลับสร้างการทำงานที่มีประสิทธิภาพได้ผลงานดีเกินคาดแน่นอน

Highlight

หากพูดถึงประสิทธิภาพการทำงาน แน่นอนว่า การที่คุณทำงานหนักตลอดทั้งวันหรือเพิ่มปริมาณงานของตนเองให้มากเข้าไว้ ย่อมไม่ใช่คำตอบของประสิทธิภาพการทำงาน เพราะการทำงานเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดนั้น จะต้องประกอบด้วยการจัดการหน้าที่ความรับผิดชอบในงานของตนเองให้สามารถผลิตผลงานหรือชิ้นงานที่มีคุณภาพที่ดี

ก่อนที่เราจะพาคุณไปเปิดเคล็ดลับการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ทุกคนรู้ไหมคะว่า ประสิทธิภาพการทำงาน จริง ๆ แล้วคืออะไร? ให้เวลาคุณคิด 1 นาที….

เรามาเฉลยกันเลย! ประสิทธิภาพการทำงาน คือ การบริหารงานรูปแบบหนึ่งที่สามารถสร้างผลงานออกมาได้ด้วยการใช้ระยะเวลาในการทำงานที่น้อยที่สุด แต่ได้ผลงานมีคุณภาพมากที่สุด และสูญเสียพลังจากการทำงานน้อยที่สุดนั่นเอง ซึ่งผลงานที่ได้นั้น จะต้องถูกต้องและเป็นไปตามวัตถุประสงค์ เป้าหมายขององค์กร และสามารถรักษาสมดุลระหว่างปริมาณงานและระยะเวลาในการทำงานไม่ให้มากเกินไปหรือน้อยเกินไป เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้เส้นทางของการทำงานไม่ยุ่งเหยิงและสามารถปฏิบัติงานได้อย่างสบายใจ

แล้วเราจะทำอย่างไรล่ะ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพการทำงานได้ดีเยี่ยม วันนี้ 4LifelongLearning เรามี 5 เคล็ดลับ ที่ปฏิบัติตามง่าย ๆ ก็ได้พัฒนาทักษะการทำงานของตนเอง ตามไปดูกันเลยค่ะ

1. การวางแผนจัดลำดับความสำคัญของชิ้นงานเพื่อสร้างประสิทธิภาพการทำงานที่ดี

การทำงานที่มีประสิทธิภาพ

ในการสร้างประสิทธิภาพการทำงาน เริ่มต้นจากการวางแผนที่ดี คุณจะต้องตั้งเป้าหมายการทำงานให้ตอบโจทย์และเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับจุดประสงค์ที่คุณต้องการสร้างผลงานของคุณ ซึ่งการวางแผนงานจะถูกแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่

1.1 การวางแผนงานระยะสั้น

คือการวางแผนงานในแต่ละวันทำงานอย่างละเอียด ออกแบบระยะเวลาการทำงานรายชั่วโมง เช่น หากคุณเป็นนักสื่อสารการตลาด คุณจะกำหนดว่า ในช่วงเช้าที่สมองยังโลดแล่น จะใช้เวลาการทำงานสัก 3 ชม. เพื่อวางแผนคอนเทนต์ในแต่ละช่องทาง พอมาช่วงบ่ายสัก 4 ชม. ชิล ๆ ที่คุณจะลงมือเขียนบทความหรือสร้างคอนเทนต์เพื่อการสื่อสาร เป็นต้น

1.2 การวางแผนงานระยะยาว

คือการวางแผนงานในภาพรวมของแต่ละเดือน ไตรมาสหรือ 1 ปี ตามรูปแบบการบริหารงานของคุณ เช่น ภายใน 3 เดือนแรกของปี จะต้องสร้างการรับรู้ของแบรนด์ ดังนั้นเดือนที่ 1 คุณจะใช้เวลาการทำงานเพื่อกำหนดกลยุทธ์ ศึกษาตลาด กำหนดกลุ่มลูกค้า เดือนที่ 2 ใช้เวลาการทำงานเพื่อผลิตสื่อและเผยแพร่ เดือนที่ 3 ใช้เวลาการทำงานเพื่อสรุปผลงานที่ได้เผยแพร่ เป็นต้น

แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า งานแบบไหนที่ควรจะต้องเลือกทำก่อนหรือทำทีหลัง เราขอให้คุณเดินไปหยิบปากกาและกระดาษมาสักหนึ่งแผ่นนะคะ และเริ่มเขียนการทำงานของคุณในแต่ละวันมีเรื่องอะไรบ้าง กำหนดส่งงานคือช่วงไหน วันที่เท่าไหร่ หากคุณลงมือเขียนการทำงานของตัวเองเรียบร้อยแล้ว คุณจะได้เห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้นในการจัดลำดับความสำคัญของชิ้นงาน แค่นี้ก็ทำให้คุณสร้างประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างดีเยี่ยม

ทริคง่าย ๆ ในการบริหารงานตามลำดับความสำคัญ คุณสามารถสร้างตารางเวลาการทำงานของตนเองบนเครื่องมือต่าง ๆ เพื่อใช้ในการเตือนความจำ ไม่ให้หลงลืมงานไหนไปได้ และถ้าหากเกิดงานแทรก หรืองานเร่งด่วน คุณจะสามารถย้อนกลับมาดูตารางการทำงานของตนเองเพื่อจัดสรรเวลาการทำงานไม่ให้ขาดตกบกพร่องได้ อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ การพยายามทำงานให้ตรงตามตารางที่คุณกำหนดเอาไว้ อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง เพราะมันจะทำให้การทำงานของคุณถูกเลื่อนระยะเวลาออกไป ซึ่งนำไปสู่ผลกระทบต่อชิ้นงานอื่น ๆ ที่คุณต้องรับผิดชอบ ทำให้เกิดความล่าช้าในการทำงานได้นะคะ

2. สร้างทักษะในการติดต่อสื่อสารกับเพื่อนร่วมทีม หัวหน้างานหรือทีมอื่น ๆ 

การทำงานที่มีประสิทธิภาพ

ประสิทธิภาพการทำงานจะเกิดขึ้นได้ เมื่อมีการติดต่อสื่อสารที่ดีระหว่างคุณและเพื่อนร่วมงาน เพราะในการทำงาน ไม่ว่าคุณจะอยู่ในตำแหน่งไหน หรือทำงานอะไร จะต้องมีการพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานอยู่เสมอเพื่อร่วมมือกันในการสร้างผลงานให้ตรงจุดกับเป้าหมายของการทำงาน ซึ่งการติดต่อสื่อสารที่ดีระหว่างคุณและเพื่อนร่วมงาน สามารถทำได้หลายวิธี แต่ในบทความนี้ เราขอยก 2 วิธีหลัก ๆ ที่น่าสนใจมาให้ทุกคนได้ลองทำตามนะคะ นั่นก็คือ

2.1 การสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานในที่ประชุม

จะต้องมีการจัดระเบียบข่าวสารข้อมูลในการสื่อสารให้เป็นลำดับขั้นตอนเพื่อให้ผู้ฟังสามารถทำความเข้าใจกับสิ่งที่คุณต้องการจะสื่อสารได้เป็นอย่างดี และสามารถออกแบบผลงานที่มีประสิทธิภาพตรงตามแผนการที่คิดไว้ได้

2.2 การสื่อสารกับเพื่อนร่วมงาน

หากมีการตั้งคำถาม เราสามารถทำได้ 2 รูปแบบก็คือ 

  • การตั้งคำถามปลายเปิด เพื่อสอบถามความคิดเห็นจากผู้ฟังให้ได้รับข้อมูลบางอย่างในหลากหลายมุมมองที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์กับการทำงานของคุณได้
  • การตั้งคำถามปลายปิด เพื่อเป็นการยืนยันข้อมูลว่า สิ่งที่คุณได้ทำงานไปนั้น ดีหรือไม่ และสามารถใช้ในการเช็คความเข้าใจของผู้ฟังได้อีกด้วย

หากคุณมีการสื่อสารที่ดีในการทำงานก็จะสามารถปฏิบัติงานให้ได้ผลงานที่ดีเกินคาดเลยทีเดียว

3. พัฒนาทักษะใหม่และเรียนรู้จากความผิดพลาดในการทำงาน

การทำงานที่มีประสิทธิภาพ

เมื่อคุณได้รับบทเรียนจากการทำงานในอดีต คุณจะมองเห็นทั้งข้อดีและข้อผิดพลาดในการทำงาน สิ่งนี้จะช่วยให้คุณสามารถรับรู้ว่า ควรจะพัฒนาทักษะอะไรเพิ่มเติมไหม หรือการบริหารงานของคุณ ควรปรับแก้ไขเรื่องอะไรหรือเปล่า หากคุณสามารถหาแนวทางในการปรับปรุงคุณภาพการทำงานของตนเองเพื่อให้เกิดผลงานที่ดีได้ ก็เท่ากับว่าคุณได้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานแล้ว สำหรับการพัฒนาทักษะ คุณสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่แพลตฟอร์ม 4LifelongLearning ของเรา ที่จะพาคุณไปเพิ่มทักษะใหม่และอัปเกรดทักษะเดิมที่คุณมีเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำงานของคุณให้อัปเลเวลได้อย่างก้าวกระโดด

4.  ฝึกฝนการสร้างสมาธิในการทำงาน 

การทำงานที่มีประสิทธิภาพ

นอกจากเราจะเตรียมความพร้อมในด้านความรู้ ความสามารถในการทำงานแล้ว สิ่งหนึ่งที่ควรเตรียมความพร้อมคือ สุขภาพร่างกายและจิตใจ เพราะในการทำงานแต่ละวันของเราจะต้องใช้พลังงานทั้งทางร่างกาย สมองและจิตใจเป็นตัวขับเคลื่อนความคิด การวิเคราะห์ และการบริหารงานด้านอื่น ๆ ดังนั้น เราควรฝึกสมาธิเพื่อให้เกิดสติ สิ่งนี้ จะช่วยให้สมองของคุณโปร่ง โล่ง สบาย ไม่ว่าจะต้องสร้างผลงานอีกกี่ชิ้น ก็จะสามารถหาทางออกหรือผลลัพธ์ในการทำงานที่ดีได้เสมอ ซึ่งการสร้างสมาธิในการทำงานนั้น ก็สามารถทำได้ดังนี้

4.1 การนอนหลับพักผ่อนอย่างน้อย 6 - 8 ชม. ต่อวัน

เพื่อให้ร่างกายและสมองของคุณได้รับการปลดปล่อยจากความตึงเครียดหรือความคิดต่าง ๆ และสามารถซ่อมแซมการทำงานของระบบภายในร่างกายให้เตรียมพร้อมรับมือกับการทำงานในวันต่อ ๆ ไปได้ 

4.2 การสร้างสมาธิด้วยการทำกิจกรรมยามว่างที่คุณรัก

เช่น การอ่านหนังสือ ทำงานประดิษฐ์ เลี้ยงสัตว์เลี้ยง เป็นต้น สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณเกิดการจดจ่อต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ซึ่งจะทำให้คุณฝึกจิตใจให้แข็งแกร่งพร้อมรับมือกับการทำงานได้ 

การฝึกสมาธิจะเป็นยาที่ดีในการช่วยทำให้คุณมีประสิทธิภาพการทำงานที่ดี เพราะเมื่อสภาพร่างกายของคุณพร้อม สภาพจิตใจของคุณที่มีความสุขก็จะไม่ส่งผลให้เกิดความอ่อนล้า อ่อนเพลียในการทำงาน แถมช่วยให้คุณเกิดความกระปรี้กระเปร่าในการบริหารงานของคุณอยู่เสมอ

5. การเลือกใช้เครื่องมือในการบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพ

การทำงานที่มีประสิทธิภาพ

เดินทางมาถึงข้อสุดท้ายในการสร้างประสิทธิภาพการทำงานที่ดีแล้วนะคะ ในข้อนี้จะเป็นการแสวงหาเครื่องมือต่าง ๆ เข้ามาช่วยปรับปรุงและพัฒนาการทำงานของคุณได้ง่ายขึ้น ตัวอย่างเช่น 

- Chat GPT ที่กำลังเป็นกระแสและถูกพูดถึงอย่างแพร่หลายในเรื่องของการเข้ามาเป็นตัวช่วยในการทำงานและช่วยหาแนวทางในการตอบคำถามหรือข้อสงสัยต่าง ๆ เกี่ยวกับการบริหารงาน ให้คุณสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ดีขึ้น 

- Clickup ระบบที่จะช่วยให้คุณจัดระเบียบการการบริหารงานของตนเองได้จากการสร้างแผนงาน (action plan) ทำให้รับรู้ไดถึงความสำคัญในแต่ละงานและเรียงลำดับงานที่ต้องทำได้อย่างสมบูรณ์แบบ

- SimpleKPI เครื่องมือช่วยให้คุณสามารถจัดการ KPI (Key Performance Indicator) ของตนเองได้ คุณสามารถวัดคุณภาพการทำงานและการบริหารงานว่า ควรจะพัฒนาทักษะ อะไรเพิ่มเติมหรือลงมือทำงานอะไรเพิ่มเติมเพื่อตอบโจทย์การทำงานให้ตรงเป้าหมาย KPI 


นอกจาก 3 เครื่องมือในการช่วยสร้างประสิทธิภาพการทำงานข้างต้นนี้แล้ว ยังมีเครื่องมืออีกหลากหลาย คุณสามารถค้นหาเครื่องมือที่ตรงกับการทำงานของตนเองได้บนโลกอินเทอร์เน็ตที่มีคลังข้อมูลมหาศาล พร้อมช่วยให้คุณทำงานได้ดีขึ้น

หลังจากที่คุณได้ลงมือปฏิบัติตามคำแนะนำ 5 ข้อด้านบนเรียบร้อยแล้ว สิ่งเหล่านี้ จะช่วยให้คุณพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานของตนเอง สามารถทำงานได้รวดเร็วขึ้น เกิดความเชี่ยวชาญในการทำงานมากขึ้น และสุดท้ายส่งผลให้ได้ชิ้นงานหรือผลงานเป็นไปตามที่คุณคาดหวังไว้

สรุป

การทำงานของคุณจะเกิดประสิทธิภาพได้อย่างแน่นอน หากลงมือทำครบ 5 เคล็ดลับที่เรานำมาแนะนำกัน ได้แก่ 1. การวางแผนจัดลำดับความสำคัญของชิ้นงานเพื่อสร้างประสิทธิภาพการทำงานที่ดี 2. สร้างทักษะในการติดต่อสื่อสารกับเพื่อนร่วมทีม หัวหน้างานหรือทีมอื่น ๆ 3. พัฒนาทักษะใหม่และเรียนรู้จากความผิดพลาดในการทำงาน 4. ฝึกฝนการสร้างสมาธิในการทำงาน และ 5. การเลือกใช้เครื่องมือในการบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพ รับรองว่าการทำงานของคุณจะเต็มไปด้วยความสุข รวมไปถึงผลงานที่ได้ก็จะเต็มไปด้วยคุณภาพเช่นกัน

Tags

Share

บทความที่คุณอาจสนใจ

Work tipsHuman Skill คืออะไร? กุญแจสำคัญให้มนุษย์ทำงานอยู่รอดในยุค AI

Human Skill คือ จุดแข็งของมนุษย์ที่ AI ไม่สามารถ ทำได้ แล้ว Human Skill human skill มีอะไรบ้าง? และจะมีเทคนิคการพัฒนาอย่างไร? ติดตามได้ในบทความนี้

Work tipsLifelong Learning คือ?​ ทำไมคนเราต้องเรียนรู้ตลอดชีวิต?

Lifelong Learning คือ ทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิต ที่จะช่วยให้ประสบความสำเร็จในโลกที่ผันผวน แล้วจะมีเทคนิคการเรียนรู้อะไรบ้าง? ค้นพบคำตอบในบทความนี้

Work tipsส่องอาชีพที่ AI ทำแทนไม่ได้ พร้อมแนวทางรับมือให้เป็นคนที่ใช่

อาชีพใดบ้างที่ AI ทำแทนไม่ได้ และอาชีพไหนที่ต้องรีบพัฒนาตนเองก่อน AI เข้ามาแทนที่มนุษย์ มาหาคำตอบพร้อมแนวทางการรับมือในบทความนี้กัน